
วันก่อนได้เขียนเรื่องการแก้ปัญหาเบื้องต้นสำหรับตะกอนลอยในถังตกตะกอนไว้ วันนี้ก้อเลยเอาเรื่องการตรวจสอบมาฝากกันดีกว่าเพราะว่าถ้าเราตรวจสอบพบปัญหาก่อนที่จะเกิดก็จะดีกว่าการแก้ไขจริงไหมครับ สำหรับวิธีการตรวจสอบนั้นมีวิธีง่ายๆ ที่ทำกันก็คือการตรวจวัดค่า SV30

SV30 เป็นค่าปริมาตรของสลัดจ์ที่อ่านได้จากการนำน้ำจากบ่อเติมอากาศมาตกตะกอนใน Imhoff Cone ขนาด 1,000 มล. (1 ลิตร) เป็นระยะเวลา 30 นาที ซึ่งค่าที่ได้จะสามารถนำมาประเมินลักษณะการตกตะกอนของสลัดจ์ได้ว่ามีสภาพอย่างไร โดยเมื่อระบบบำบัดน้ำเสีย (ระบบแบบ Activated Sludge) ทำงานปกติค่า SV30 จะมีค่าอยู่ระหว่าง 200-300 มล. นอกจากนี้ถ้าเราสังเกตการตกตะกอนของตะกอนระหว่างทดสอบ ก็สามารถทำให้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1. ลักษณะของสลัดจ์มีสีน้ำตาลเข้มตะกอนสามารถตกตะกอนได้เร็ว น้ำส่วนบนค่อนข้างใส และปริมาณสลัดจ์
มีค่าระหว่าง 200-300 มิลลิลิตร จากข้างต้นสรุปได้ว่าระบบทำงานเป็นปกติ2. ลักษณะของสลัดจ์มีสีน้ำตาลเข้มมาก ปริมาณสลัดจ์
มีค่าระหว่าง 300-400 มิลลิลิตร จากข้างต้นสรุปได้ว่า
ระบบทำงานเป็นปกติ แต่สลัดจ์ภายในบ่อเติมอากาศค่อนข้างมากเกินไปจำเป็นต้องสูบตะกอนส่วนเกินไปกำจัดให้มากขึ้นเพื่อให้ค่า SV30 อยู่ระหว่าง 200-300 มิลลิลิตร
3. ลักษณะของสลัดจ์มีสีน้ำตาลเข้มและตกตะกอนได้เร็ว แต่เมื่อตั้งทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง พบว่ามีสลัดจ์ลอยขึ้นที่ผิวหน้าน้ำ ซึ่งแสดงว่าเกิดปฏิกริยาดีไนตริฟิเคชั่น ภายในถังตกตะกอนอันเกิดจากมีการสะสมของสลัดจ์บริเวณก้นถังตกตะกอน จำเป็นต้องสูบตะกอนส่วนเกินไปกำจัดให้มากขึ้นเพื่อให้ค่า SV30 อยู่ระหว่าง 200-300 มิลลิลิตร
4. ลักษณะของสลัดจ์มีสีน้ำตาลและตกตะกอนช้า น้ำส่วนบนมีลักษณะขุ่น ลักษณะดังกล่าวอาจเกิดจากปริมาณน้ำเสียเข้าสู่ระบบมากเกินไป หรืออาจเกิดจากระบบการเิติมอากาศมีความบกพร่อง จำเป็นจะต้องลดการสูบสลัดจ์ส่วนเกินไปกำจัดเพื่อเพิ่มปริมาณสลัดจ์ในบ่อเติมอากาศ และให้ตรวจเช็คค่าปริมาณออกซิเจนละลายน้ำภายในบ่ิอเติมอากาศว่าเพียงพอหรือไม่ (ค่าปกติอยู่ที่ 1-2 มก./ลิตร)
5. ลักษณะของสลัดจ์มีสีน้ำตาลอ่อนและตะกอนตกช้า น้ำส่วนบนมีลักษณะขุ่น ลักษณะดังกล่าวมักพบตอนที่เริ่มมีการเดินระบบใหม่ๆ แต่ถ้าเป็นช่วงปกติแล้ว
วัดค่า SV30 ได้ต่ำกว่า 200 มิลลิลิตร อาจเป็นเพราะว่า BOD Loading เข้าระบบต่ำเกินไป (ตรงนี้ให้ตรวจสอบกับค่าที่ออกแบบไว้)
ก็ลองเอาไปใช้ดูนะครับ ผมว่าค่า SV30 เป็นค่าที่ตรวจวัดได้ง่ายและบอกอะไรเราได้หลายอย่าง ที่จริงจะว่าไปแล้วการควบคุมดูแลระบบบำบัดน้ำเสียนั้นจะต้องตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ในหลายๆตัว เพื่อที่จะได้นำมาประเมินระบบว่ามีปัญหาหรือมีสภาำพอย่างไร เหมือนอย่างกับไปหาหมอซึ่งการวัดไข้อย่างเดียวอาจไม่สามารถบอกอาการทั้งหมดได้ ต้องตรวจหลายๆอย่าง แต่ปัจจุบันใช่ว่าทุกที่จะมีความพร้อมในการตรวจวัดค่าต่างๆได้ครบเป็นประจำ แต่ถ้าจะให้ระบบมีประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานผมว่าถ้าเป็นไปได้นำน้ำเสียไปตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ เพื่อตรวจหาสภาพการทำงานของระบบบ้างก็ดีนะครับ อย่างเช่น ค่าออกซิเจนละลายน้ำ(DO) ค่าความเข้มข้นของตะกอนจุลินทรีย์ (MLSS) เหล่านี้เป็นต้น เพิ่มจากการน้ำทิ้งไปตรวจซึ่งเราจะต้องตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว