วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2568

ก้าวสู่อนาคตโฟมดับเพลิงที่ปลอดภัยไร้สาร PFAS

โฟมดับเพลิงเป็นเครื่องมือสำคัญในการระงับอัคคีภัย โดยเฉพาะเพลิงไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงเหลว (Class B) ซึ่งมีความรุนแรงและดับยาก ประสิทธิภาพของโฟมในการสร้างชั้นฟิล์มปกคลุมพื้นผิวเชื้อเพลิง (Aqueous Film-Forming Foam - AFFF) ได้ช่วยรักษาชีวิตและทรัพย์สินมานับไม่ถ้วน แต่เบื้องหลังประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมนั้น กลับมีภัยเงียบที่ซ่อนอยู่จากสารเคมีในกลุ่ม PFAS (Per- and Polyfluoroalkyl Substances) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในโฟม AFFF มายาวนาน

PFAS: สารเคมีอมตะที่คุกคามสิ่งแวดล้อม

สารในกลุ่ม PFAS โดยเฉพาะสารที่เกี่ยวข้องกับ PFHxS (Perfluorohexane sulfonic acid) มีคุณสมบัติพิเศษคือความเสถียรและทนทานต่อความร้อนและสารเคมีสูงอย่างยิ่ง คุณสมบัตินี้ทำให้มันเหมาะกับการใช้ในโฟมดับเพลิง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มันกลายเป็น

"สารเคมีอมตะ" (Forever Chemicals) ที่ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ เมื่อโฟมถูกใช้งานหรือรั่วไหล สาร PFAS จะปนเปื้อนลงสู่ดินและแหล่งน้ำ สะสมในสิ่งมีชีวิต และส่งต่อตามห่วงโซ่อาหาร ซึ่งงานวิจัยในประเทศไทยเองก็ได้ตรวจพบการปนเปื้อนของสารกลุ่มนี้ในแหล่งน้ำใต้ดินบริเวณพื้นที่อุตสาหกรรมแล้ว

ผลกระทบที่น่ากังวลนี้ ทำให้ประชาคมโลกหันมาให้ความสำคัญ โดย

อนุสัญญาสตอกโฮล์ม (Stockholm Convention) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก ได้มีมติเสนอให้ควบคุมสาร PFHxS อย่างเข้มงวดที่สุด โดยการบรรจุไว้ในภาคผนวก เอ ซึ่งหมายถึงการ "เลิกผลิตและเลิกใช้" ในที่สุด นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าทิศทางของโลกกำลังมุ่งสู่การยุติการใช้สาร PFAS อย่างถาวร


เทคโนโลยีน้ำยาโฟมดับเพลิงรุ่นใหม่

โฟมสังเคราะห์ปลอดสารฟลูออรีน Synthetic Fluorine-Free Foam (SFFF)  แบ่งออกเป็นได้ 2 ประเภท คือ Synthetic Fluorine-Free Foam (SFFF)  และ Alcohol Resistant Synthetic Fluorine Free Foam (AR-SFFF) ความเข้มข้นที่เป็นที่นิยม มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้กับอุปกรณ์โฟมดับเพลิงได้ทุกแบบ คือ โฟมที่มีความเข้มข้นที่ 3%

  • Synthetic Fluorine-Free Foam (SFFF)  สามารถดับเพลิง ประเภท เหลวไวไฟที่มีส่วนประกอบของไฮโดรคาร์บอน (hydrocarbons) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น น้ำมันดิบ ถ่านหิน ปิโตรเลียม ครอบคลุมถึงความเสี่ยงต่อไฟไหม้คลาส A ทำให้เหมาะสำหรับความต้องการในการป้องกันอัคคีภัยที่หลากหลาย
  • Alcohol Resistant Synthetic Fluorine Free Foam (AR-SFFF) สามารถดับเพลิง ประเภทเกี่ยวข้องกับไฮโดรคาร์บอนและตัวทำละลายที่มีขั้ว (polar solvents) เช่น เฮปเทน อะซิโตน และ IPA ครอบคลุมถึงความเสี่ยงต่อไฟไหม้คลาส A ทำให้เหมาะสำหรับความต้องการในการป้องกันอัคคีภัยที่หลากหลาย
ถึงเวลาแล้วที่เราจะเปลี่ยนผ่านมาให้ใช้โฟมดับเพลิงที่ปราศจากสาร PFAS และยังช่วยให้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป้าหมายที่ 3 Good Health And Well-Being สำเร็จไปด้วย

ขอยกตัวอย่าง Specification น้ำยาโฟมที่ปราศจากสาร PFAS (SOLBERG 3%)














ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทย
- SOLBERG
- NAFFCO
- FIRECHEM

อ้างสารอ้างอิง

1. บริษัท นิปปอน เคมิคอล จำกัด

2. perimeter-solutions.com



วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568

เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษต้องมีผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย 2568

เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 กำหนดให้ แหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องมีผู้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ แบ่งการบังคับใช้เป็น 3 ระยะ

ระยะที่ 1 (24 ตุลาคม 2568)

อาคารพาณิชย์ ประเภท ก.

- โรงแรมที่มีจำนวนห้องสำหรับใช้เป็นห้องพักรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ กลุ่มของอาคารตั้งแต่ 200 ห้องขึ้นไป
อาคารโรงเรียนเอกชน โรงเรียนของทางราชการ สถาบันอุดมศึกษาของเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาของทางราชการที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 25,000 ตารางเมตรขึ้นไป
- อาคารที่ทำการของทางราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การระหว่างประเทศหรือของเอกชน ที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 55,000 ตารางเมตรขึ้นไป
- อาคารของศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้น ของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 25,000 ตารางเมตรขึ้นไป
- ตลาดที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 2,500 ตารางเมตรขึ้นไป
ภัตตาคารหรือร้านอาหารที่มีพื้นที่ใช้บริการรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ กลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 2,500 ตารางเมตรขึ้นไป

อาคารสถานพยาบาล ประเภท ก.
โรงพยาบาลของทางราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลที่มีเตียงสำหรับรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนรวมกัน ทุกชั้นของอาคาร หรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 30 เตียงขึ้นไป


ระยะที่ 2 (24 เมษายน 2569)

อาคารอยู่อาศัย ประเภท ก.
อาคารชุดที่มีจำนวนห้องสำหรับ ใช้เป็นที่อยู่อาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 500 ห้องชุดขึ้นไป

อาคารพาณิชย์ ประเภท ข.
- โรงแรมที่มีจำนวนห้องสำหรับใช้เป็นห้องพักรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือ กลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 60 ห้อง แต่ไม่ถึง 200 ห้อง
- สถานบริการประเภทสถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัว ตามกฎหมายว่าด้วยสถาน บริการ ที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตรขึ้นไป
อาคารโรงเรียนเอกชน โรงเรียนของทางราชการ สถาบันอุดมศึกษาของเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาของทางราชการ ที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 25,000 ตารางเมตร
- อาคารที่ทำการของทางราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การระหว่างประเทศ หรือ ของเอกชนที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 55,000 ตารางเมตร
- อาคารของศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า ที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้น ของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 5,000 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 25,000 ตารางเมตร
- ตลาดที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 1,500 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 2,500 ตารางเมตร
- ภัตตาคารหรือร้านอาหารที่มีพื้นที่ให้บริการรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ กลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 500 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 2,500 ตารางเมตร

อาคารสถานพยาบาล ประเภท ข.
โรงพยาบาลของทางราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลที่มีเตียงสำหรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนรวมกันทุกชั้น ของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 10 เตียง แต่ไม่ถึง 30 เตียง

ที่ดินจัดสรร ประเภท ก.
ที่ดินจัดสรรที่รังวัดแบ่งเป็นแปลงย่อยเพื่อจำหน่าย ตั้งแต่ 500 แปลง หรือเนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ และได้รับอนุญาตให้จัดสรร ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2539 เป็นต้นไป

การเลี้ยงสุกร ประเภท ก.
การเลี้ยงสุกรพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ สุกรขุนหรือลูกสุกร ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปที่มีน้ำหนักหน่วยปศุสัตว์เกินกว่า 600 หน่วย

ระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน (ทุกขนาด)

แหล่งกำเนิดมลพิษอื่น ที่มีระบบบำบัดน้ำเสีย ตั้งแต่ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขึ้นไป

ระยะที่ 3 (26 ตุลาคม 2569)

อาคารอยู่อาศัย ประเภท ข.
- อาคารชุดที่มีจำนวนห้องสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 100 ห้องชุด แต่ไม่ถึง 500 ห้องชุด
- หอพัก ตามกฎหมายว่าด้วยหอพักที่มีจำนวนห้องสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยรวมกัน ทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 250 ห้องขึ้นไป
หอพัก ห้องเช่า ห้องแบ่งเช่า หรือกิจการอื่นในทำนองเดียวกันตามกฎหมาย ว่าด้วยการสาธารณสุขที่มีจำนวนห้องสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุ่มของอาคาร ตั้งแต่ 250 ห้องขึ้นไป

ที่ดินจัดสรร ประเภท ข.
ที่ดินจัดสรรที่รังวัดแบ่งเป็นแปลงย่อยเพื่อจำหน่าย ตั้งแต่ 100 ถึง 499 แปลง หรือเนื้อที่ 19 ถึง 100 ไร่ และได้รับอนุญาตให้จัดสรร ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2539 เป็นต้นไป

การเลี้ยงสุกร ประเภท ข.
การเลี้ยงสุกรพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ สุกรขุนหรือลูกสุกร ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปที่มีน้ำหนักหน่วยปศุสัตว์ ตั้งแต่ 60 หน่วย แต่ไม่เกิน 600 หน่วย


สำหรับกฎหมายฉบับเต็มอ่านได้ตามลิงค์นี้ได้เลยนะครับ

ประกาศใช้เดือนหน้าแล้วนะครับ แต่ยังขึ้นทะเบียนยังไม่ได้ (อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง) ถ้าได้อย่างไรเดี๋ยวจะมาแจ้งข่าวคราว